วิธีการดูแลกรณีเกิดเลือดกำเดาไหล (epistaxis)

เลือดกำเดาไหลสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย โดยมากจะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กจะมีเส้นเลือดฝอยที่เปราะแตกง่ายกว่า โดยเฉพาะในเด็กที่ขาดวิตามินซี
สภาพอากาศเองก็มีส่วนทำให้เลือดกำเดาไหลง่ายขึ้น อย่างเช่น อากาศที่แห้ง รวมถึงฝุ่น PM 2.5 เราจึงควรรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีที่มีเลือดกำเดาไหล
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเมื่อเกิดเลือดกำเดาไหลให้เงยหน้าขึ้น แต่ที่จริงแล้วการเงยหน้าเมื่อเลือดกำเดาไหลเป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจาก หากเลือดกำเดาไหลเยอะมากลงคอ มีโอกาสที่จะไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้
สำหรับขั้นตอนในการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องคือ
- นั่งยืดตัวตรงและก้มหน้า (หากกลัวเลือดเปื้อนเสื้อ ให้โน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย)
- เอานิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบที่ปีกจมูกทั้งสองข้างแน่นๆอย่างน้อย 5-10 นาที (หายใจทางปากระหว่างบีบจมูก)
- ประคบน้ำแข็งที่บริเวณหน้าผาก,ดั้งจมูก และหาน้ำแข็งอมบริเวณเพดานปาก เพื่อช่วยในการห้ามเลือด
- ถ้ามีเลือดไหลลงคอ ให้บ้วนออกมาเพื่อป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ และช่วยในการประเมินปริมาณเลือดที่ไหลออกมาร่วมด้วย
- หากเลือดไม่หยุดไหลหลังจากทำตามขั้นตอนเบื้องต้น ให้รีบมารพ.
- อย่างไรก็ตาม หากเลือดไหลในปริมาณมาก ไม่จำเป็นต้องรอ 5-10 นาที แต่ให้มารพ.ขณะที่บีบจมูกทั้งสองข้างได้เลย เนื่องจากหากเสียเลือดมาก มีโอกาสเป็นลมหมดสติและเสียชีวิตได้
สาเหตุของเลือดกำเดาไหลที่พบบ่อย คือภูมิแพ้อากาศ และไซนัสอักเสบ อย่างไรก็ตาม เลือดกำเดาไหลอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคร้ายอื่นๆได้ ซึ่งในบทความต่อไปจะอธิบายให้ทราบถึงสาเหตุอื่นๆค่ะ
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : พญ.ใหม่ เลาหสุขเกษม
ศูนย์ หู คอ จมูก ชั้น 3 โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง
โทรศัพท์ 02 220 7999 ต่อ 83040-41