การปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมตัวเข้ารับการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น และลำไส้ใหญ่
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ก่อนเข้ารับการส่องกล้อง อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาควรแจ้งแพทย์ทราบ ถ้ามียาที่ต้องรับประทานประจำเช่น ยาลดความดันให้รับประทานได้ปกติพร้อมดื่มน้ำประมาณ 30 มล. ยกเว้นผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์เจ้าของไข้เพื่อปรับปริมาณยา เพราะผู้ป่วยต้องงดน้ำงดอาหาร และการรับประทานยาปริมาณเท่าเดิมอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้
- ก่อนวันส่องกล้อง2วัน ให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย มีกากน้อยเช่นข้าวต้ม โจ๊ก เนื้อปลา ไข่ งดอาหารที่มีกากมากเช่น ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์อื่น ๆ
- ก่อนวันส่องกล้อง1วัน ให้รับประทานอาหารเหลวไม่มีกาก เช่น น้ำ น้ำซุปใส น้ำผลไม้ น้ำหวานที่ไม่มีสี งดน้ำผลไม้หรือน้ำหวานที่มีสีแดงหรือสีเข้ม รับประทานยาระบาย ตามแพทย์และพยาบาลแนะนำ
- ก่อนวันตรวจ7วัน ควรหยุดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นยา Warfarin, Aspirin, Plavixเพื่อป้องกันภาวะเลือดหยุดยาก
- ผู้ป่วยนอกควรมีญาติมาด้วย เพื่อรอรับผู้ป่วยกลับ ภายหลังการส่องกล้องและฟื้นจากได้รับยาระงับความรู้สึก ยาแก้ปวดในขณะส่องกล้อง ไม่ขับรถกลับด้วยตนเอง
- ไม่นำเครื่องประดับและทรัพย์สินมีค่าติดตัวมาในวันส่องกล้องเพื่อป้องกันการสูญหาย
- กรณีที่ผู้ป่วยมีฟันโยก ฟันปลอมชนิดถอดได้ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อถอดเก็บก่อนเข้าส่องกล้อง
- ลงนามในใบยินยอมรับการส่องกล้อง ถ้าผู้ป่วยอายุต่ำกว่า18 ปีต้องให้ผู้ปกครองลงนามอนุญาต และรับทราบความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังการส่องกล้อง
- ควรมาก่อนเวลานัด 1ชั่วโมง
ขั้นตอนการส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหารส่วนต้น และลำไส้ใหญ่
- เปลี่ยนชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ เก็บเสื้อผ้าและรองเท้าผู้ป่วยไว้ที่ lockerในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฝากของมีค่าไว้กับญาติ
- ผู้ป่วยงดน้ำงดอาหารเตรียมส่องกล้องบางราย ที่การเตรียมลำไส้ยังไม่สะอาดพบว่ายังถ่ายอุจจาระมีกากปน แพทย์จะให้สวนอุจจาระก่อนการตรวจ
- จัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคงซ้ายโดยให้สะโพกอยู่ที่ขอบเตียงให้มากที่สุด
- ขณะส่องกล้องตรวจ แพทย์จะให้ยานอนหลับ และใส่กล้องส่องตรวจเข้าไปในลำไส้ใหญ่ เป่าลมเล็กน้อยขยายลำไส้เพื่อให้เห็นภายในลำไส้ได้ชัดเจน ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกอึดอัดเหมือนอยากเบ่งอุจจาระ ผู้ป่วยควรหายใจเข้าออกลึกๆ ปล่อยตัวตามสบาย และแพทย์จะดูดลมออกภายหลังตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว
- กรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ แพทย์จะให้การรักษาทันทีเช่นการห้ามเลือด การตัดชิ้นเนื้อผิดปกติตรวจทางพยาธิวิทยาเป็นต้น
- ระยะเวลาส่องกล้องประมาณ 30 นาที หลังจากส่องกล้องเสร็จแล้วผู้ป่วยจะเข้าพักฟื้นในห้องพักฟื้นจนตื่นรู้สึกตัวดี และมีอาการทั่วไปดีเป็นปกติปลอดภัยสามารถกลับบ้านได้
การปฏิบัติตัวหลังการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น และลำไส้ใหญ่
- รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย งดอาหารรสจัด รับประทานอาหารที่มีกากใยและดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วเพื่อป้องกันการท้องผูก
- ผู้ป่วยเดินทางกลับบ้าน ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ การทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำงานที่ต้องใช้การตัดสินใจอย่างน้อย 24 ชม. หลังส่องกล้อง ไม่ควรกลับไปทำงานต่อ ควรพักผ่อนที่บ้าน
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น อาเจียน ปวดท้องมาก ท้องแข็ง มีไข้สูง มีเลือดออกทางทวารหนัก หรือมีอาการบวมแดงร้อนบริเวณที่ฉีดยา ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
- มาพบแพทย์ตามนัด โดยเฉพาะในรายที่มีการส่งชิ้นเนื้อตรวจเพื่อฟังผลชิ้นเนื้อ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดหลังจากการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น และลำไส้ใหญ่
การตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง อาจพบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น จากยานอนหลับ อาการแน่นท้อง อาเจียนเป็นเลือด อาการปวดท้องมากหลังการตรวจ ถ่ายเป็นเลือด หรือแสดงอาการของระบบทางเดินอาหารทะลุ และอื่นๆจากแผลในลำไส้ที่เกิดจากการตัดชิ้นเนื้อหรือจากวิธีรักษาเลือดออกจากแผลในลำไส้ ฯลฯ และการตัดเนื้องอกใหญ่ๆ เช่น Polyps ฯลฯ ดังนั้นถ้าผู้รับการส่องกล้องมีอาการปวดท้องมากหลังการตรวจ หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ ควรกลับมาพบแพทย์ผู้รักษาโดยด่วน หรือโทรศัพท์ปรึกษาอาการในกรณีที่อาการดังกล่าวไม่รุนแรง