รู้จักคอเลสเตอรอลและลดอย่างไรให้ได้ผล

รู้จักคอเลสเตอรอลและลดอย่างไรให้ได้ผล
ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้มากในปัจจุบัน ส่วนใหญ่พวกเรามักทราบระดับไขมันในเลือดจากตอนที่เจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปี ค่าไขมันในเลือดนี้เรามักคุ้นหูกันเพียงว่า “ไม่ควรเกิน 200” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ยังมีรายละเอียดที่ควรทราบอีก
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักไขมันในเลือดกันก่อนดีกว่า
- ไขมันในเลือดแบ่งออกเป็นชนิดหลักๆ ที่มีผลต่อสุขภาพและมีความสำคัญคือ แอลดีแอล (LDL), เอชดีแอล (HDL)และ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ซึ่งไขมันในเลือดทั้งสามชนิดนี้ จะถูกคำนวณรวมกับเป็นค่า คอเลสเตอรอลรวม ซึ่งเป็นค่าที่รู้จักกันและแนะนำให้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ไขมันชนิด LDL เป็นไขมันชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากมีค่าที่สูงจนเกินไป โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด ระดับของ LDL ที่ไม่ควรเกิน สำหรับคนทั่วไปแนะนำว่าไม่ควรเกิน 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แต่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ แนะนำให้ไม่ควรเกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ไขมันชนิด HDL เป็นไขมันที่ชี้วัดว่าสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดี เพราะ HDL มีฤทธิ์ในการชะลอการเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันได้ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ และ HDL ถูกใช้เป็นดัชนีชี้วัดว่า สุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือดนั้นมีความเหมาะสมเพียงใด ค่าที่แนะนำคือ ไม่ควรมีน้อยกว่า 40 ในผู้ชายและ ไม่ควรมีน้อยกว่า 50 ในผู้หญิงค่ะ
- ไขมันชนิด Triglyceride ในเวลาทั่วไปมักไม่พบว่ามีในระดับสูงไปกว่า 150 เพราะไขมันชนิดนี้เป็นรูปแบบการเดินทางของไขมันจากอาหารในร่างกาย แปลว่าจะพบว่าสูงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากหรือน้อยเป็นหลัก ไขมันในเลือดชนิดนี้จะพบในระดับปกติภายหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง สำหรับคนที่เจาะเลือดแล้วพบว่ามีไขมันชนิดนี้ในระดับที่สูงกว่า 150 ขึ้นไป มักเป็นคนที่มีปัญหาในการจัดการสารอาหารในร่างกาย เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน ตับมีความผิดปกติ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้ที่ได้รับน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำ หรือผู้ที่รับประทานอาหารไขมันในปริมาณมาก
หยิบผลการตรวจเลือดประจำปีออกมา จากนั้นลองดูผลการตรวจได้เลย ว่าเรามีปัญหาในส่วนของไขมันในเลือดหรือไม่ ? หากไม่มีปัญหา เป็นผู้ที่มีไขมันในเลือดปกติ ขอแสดงความยินดีด้วย ส่วนผู้ที่ไขมันในเลือดสูงโดยเฉพาะ LDL เรามาใช้โอกาสนี้หันกลับมารักสุขภาพ ปรับเปลี่ยนการกินและเพิ่มการออกกำลังกายกันดีกว่า