นิ่วในไต..รักษาไว…เลี่ยงไตเสื่อม

นิ่วในไต..รักษาไว…เลี่ยงไตเสื่อม
3 อาการ เสี่ยงนิ่วในไต
1. ปวดช่องท้องส่วนล่าง ร้าวไปหลังหรือขาหนีบ ลักษณะอาการปวดแบบปวดบิดเป็นพักๆ
2. มีปัสสาวะขุ่น มีเลือดปน มีเม็ดทรายปน
3. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไข้สูง
ระวัง!…ใครบ้างเสี่ยงเกิดนิ่วในไต
1. เพศชาย ช่วงอายุ 30-60 ปี
2. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่วในไต
3. พฤติกรรมดื่มน้ำน้อย หรือ รับประทานอาหารบางอย่างมากเกินความจำเป็น เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูง โปรตีนสูง โซเดียมสูง หรือกรดออกซาเลตสูง
4. โรคอ้วน ภาวะดื้ออินซูลิน เก๊าท์
5. ภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากเกินไป
6. ยาบางชนิด ซึ่งมีผลต่อการขับสารก่อนิ่วออกมาในปัสสาวะมากขึ้น
นิ่วในไต วินิจฉัยอย่างไร
1. ซักประวัติ อาการและความเสี่ยงการเกิดนิ่ว และตรวจร่างกาย
2. การตรวจปัสสาวะเบื้องต้น พบเม็ดเลือดแดงจำนวนมากหรือเลือดปน ในผู้ป่วยบางราย มีการตรวจวิเคราะห์สารที่เป็นปัจจัยของการเกิดนิ่ว
3. ตรวจเลือด เพื่อดูการทำงานของไต ระดับแคลเซียม ระดับกรดยูริกในเลือด
4. ตรวจเพิ่มเติม เช่น การเอกซเรย์ช่องท้อง อัลตร้าซาวด์ไต เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ถ่ายภาพรังสีไต เป็นต้น
วิธีการรักษานิ่วในไต
พิจารณาตามขนาดของนิ่ว มีวิธีการรักษา ดังนี้
1. การปรับพฤติกรรม หากนิ่วมีลักษณะก้อนเล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตร มีโอกาสที่นิ่วสามารถหลุดเองได้
2. การใช้เครื่องสลายนิ่ว โดยใช้คลื่นเสียงกระแทกเหมาะสำหรับนิ่วไม่เกิน 2 เซนติเมตร แต่มีข้อจำกัดในกรณี ผู้ป่วยที่มีรูปร่างใหญ่
3. การส่องกล้องผ่านท่อไต เหมาะสำหรับนิ่ว 1-2 เซนติเมตร
4. การเจาะรูส่องกล้องสลายนิ่วผ่านผิวหนัง จะเป็นการสลายนิ่วทุกขนาด ทุกความแข็ง
5. การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่และไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น
ป้องกันดีกว่าแก้ …นิ่วในไต : D diet
- คุม ดื่มน้ำ 2-2.5 ลิตรต่อวัน
- คุม อาหารเค็ม ลดเกลือในมื้ออาหาร
- คุม อาหารโปรตีนสูง
- คุม ปริมาณแคลเซียมในปริมาณพอเหมาะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : พญ. เนสินี เก้าเอี้ยน