ข้อมูลโรงพยาบาล
เราคือใคร
โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ให้บริการด้วยวิทยาการทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และโปรแกรมการรักษา บำบัด วินิจฉัย ตามมาตรฐานระดับสากล โดยทีมแพทย์ชำนาญการเฉพาะทาง เพื่อยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และเหมาะกับสภาพร่างกายของผู้รับบริการแต่ละ รายอีกทั้งยังเป็นโครงการสำคัญที่จะสร้างโอกาสในการเติบโตและขยายอาณาจักรธุรกิจเฮลท์แคร์ภายใต้การดำเนินงานของ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ผู้นำธุรกิจด้านการดูแลรักษาสุขภาพของประเทศไทยมายาวนานกว่า 45 ปี
เทคโนโลยีด้านทันตกรรมดิจิทัล
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) เป็นผู้นําด้านการดูแลสุขภาพครบวงจรของประเทศไทยให้บริการด้านการแพทย์และการบริหารจัดการโรงพยาบาล บริษัทฯ พร้อมขยายการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาพยาบาลทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร
ประวัติโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2519 นพ. บุญ วนาสิน พร้อมด้วยคณะแพทย์ ได้ก่อตั้งบริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 20 ล้านบาท โดยเลือกตั้งโรงพยาบาลในพื้นที่ฝั่งธนบุรี เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชนให้บริการ และโรงพยาบาลของรัฐเพียงแห่งเดียวคือ โรงพยาบาลศิริราช มีผู้มารับบริการจำนวนมากเกินกำลังรองรับ ทำให้ผู้ป่วยต้องรอคอยเป็นเวลานานเนื่องจากจำนวนเตียงไม่เพียงพอ การก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โรงพยาบาลธนบุรีเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่เลขที่ 34/1 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700 โดยเริ่มดำเนินงานในฐานะโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง ให้บริการทางการแพทย์โดยคณะแพทย์อาวุโสและแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย แก่ผู้รับบริการในกลุ่มระดับกลางถึงสูงในย่านฝั่งธนบุรีหรือฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร
โรงพยาบาลธนบุรีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนจำนวนคลินิกผู้ป่วยนอกและเตียงที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้รับบริการในพื้นที่ จึงได้มีการขยายอาคารในปี พ.ศ. 2523 ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ทำให้ขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 113 เตียง และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 60 ล้านบาท
บริษัทมีความมั่นคงและมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่มีคุณภาพด้วยมาตรฐานวิชาชีพที่เป็นเลิศ จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่ฝั่งธนบุรี อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภาวะขาดแคลนเตียงผู้ป่วย บริษัทจึงได้ขยายศักยภาพการให้บริการโดยการก่อสร้างอาคารใหม่สูง 12 ชั้น พร้อมทั้งเปิดโรงพยาบาลธนบุรี 2 ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2536 โรงพยาบาลธนบุรี 2 ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้มีจำนวนเตียง 68 เตียง ตั้งอยู่เลขที่ 43/4 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2537 บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด (มหาชน)”
บริษัทได้เริ่มขยายการให้บริการผ่านบริษัทในเครือไปยังต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากการเล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ บริษัทจึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสยามในการเปิดหลักสูตรปริญญาตรีแพทยศาสตรบัณฑิต เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ สามารถให้บริการได้อย่างมีมาตรฐาน และมีศักยภาพในการพัฒนาตนเองและสังคม
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัท เดนทัลสยาม จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทันตกรรมและดำเนินธุรกิจร้านขายยา
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาเข้าบริหารโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีจำนวนเตียงให้บริการ 129 เตียง
โรงพยาบาลธนบุรี 2 ได้เปิดอาคารหลังที่สองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 เพื่อรองรับความต้องการด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยทั้งสองอาคารมีจำนวนเตียงรวมกันทั้งสิ้น 95 เตียง ในปีเดียวกัน บริษัทได้ลงนามในสัญญาเพื่อดำเนินงานและบริหารจัดการโรงพยาบาลเมืองพัทยา ซึ่งมีจำนวนเตียง 110 เตียง
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 600 ล้านบาท และได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสยาม เปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์การแพทย์สำหรับคณะแพทยศาสตร์ เพื่อฝึกอบรมและผลิตแพทย์ที่มีคุณภาพและมีจริยธรรม อันเป็นการตอบสนองต่อการขาดแคลนแพทย์ในประเทศ
วันที่ 6 มกราคม 2557 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 31.87 ในบริษัท สิริเวช จันทบุรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 585 ล้านบาท
วันที่ 16 กรกฎาคม 2557 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยในชื่อ บริษัท ศูนย์หัวใจธนบุรี จำกัด เพื่อให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจและบริการด้านการบริหารแก่โรงพยาบาลอื่น ๆ โดยจัดตั้งศูนย์หัวใจใหม่หรือเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์หัวใจที่มีอยู่แล้วในโรงพยาบาลนั้น ๆ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทย่อยดังกล่าวให้บริการศูนย์หัวใจแก่ โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี และ โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
วันที่ 22 กันยายน 2557 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มใน บริษัท โมดูลาร์ ซอฟต์แวร์ เอ็กซ์เพอร์ทีส จำกัด ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียน 18 ล้านบาท
วันที่ 20 ตุลาคม 2557 บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์แคร์ จำกัด เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพที่บ้านผู้ป่วยและสร้างสถานดูแลผู้สูงอายุแบบสแตนด์อโลน โดยบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
วันที่ 15 ธันวาคม 2557 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 100 ใน บริษัท ราชธานี เรียลตี้ จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และจัดสรรที่ดินสำหรับโครงการบริการดูแลผู้สูงอายุ
วันที่ 24 ธันวาคม 2557 บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท ธนบุรี เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.78 ของทุนจดทะเบียน 800 ล้านบาท
วันที่ 30 ธันวาคม 2557 บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท อุบลรักษ์ จำกัด (โรงพยาบาลอุบลรักษ์) เป็นร้อยละ 34.04 ของทุนจดทะเบียน 37.5 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท โรงพยาบาลราชญ์อินทร์ จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 54.23 ของทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 บริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลธนบุรี จำกัด เป็นร้อยละ 99.98 ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 บริษัทฯ ได้ทำสัญญากับบริษัท วีโก โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อร่วมจัดตั้งกิจการร่วมค้าในนาม “บริษัท เว่ยไห่ ธนบุรี เมดิคอล อีควิปเมนท์ จำกัด” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการด้านการบริหารโรงพยาบาลในสาธารณรัฐประชาชนจีน (“โรงพยาบาลเวลลี่”) ด้วยทุนจดทะเบียน 230 ล้านหยวน (เทียบเท่า 1,249 ล้านบาท) โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 58 ของทุนจดทะเบียนดังกล่าว
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 บริษัท โรงพยาบาลราชญ์อินทร์ จำกัด (มหาชน) ได้ลดทุนจดทะเบียนจาก 400 ล้านบาท เหลือ 388,271,118 บาท โดยหักจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนแต่ยังมิได้จำหน่ายออก เพื่อให้ทุนจดทะเบียนคงเหลือเท่ากับทุนที่ชำระแล้ว การลดทุนดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 54.23 เป็นร้อยละ 55.87
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 กิจการร่วมค้าได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจาก “บริษัท เว่ยไห่ ธนบุรี เมดิคอล อีควิปเมนท์ จำกัด” เป็น “บริษัท เว่ยไห่ ธนบุรี เฮลท์แคร์ อินเวสต์เมนท์ จำกัด”
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 849.08 ล้านบาท (ทุนชำระแล้ว 764.08 ล้านบาท) เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO)
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มของบริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ จำกัด มูลค่า 850 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ จำกัด เพิ่มเป็น 1,150 ล้านบาท โดยสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 99.99
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 บริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท กาโมนพวินท์ จำกัด, บริษัท อรยูอนันต้า เมดิคอล เซอร์วิสเซส จำกัด และ บริษัท ดับบลิวเจ อินเตอร์เนชันแนล ฮอสปิทอล แมเนจเมนท์ จำกัด จัดตั้งและจดทะเบียนกิจการร่วมค้าในชื่อ “บริษัท อรยู อินเตอร์เนชันแนล เฮลท์แคร์ จำกัด” มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารโรงพยาบาลในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (โรงพยาบาลอรยู อินเตอร์เนชันแนล) โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (จำนวนหุ้นสามัญ 10,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน และมีการเรียกชำระค่าหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 บริษัท โรงพยาบาลราชญ์อินทร์ จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 388,271,118 บาท เป็น 430,000,000 บาท โดยบริษัทฯ ได้เพิ่มการลงทุนในหุ้นสามัญของโรงพยาบาลราชญ์อินทร์ จำกัด (มหาชน) มูลค่า 83,421,429 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 55.87 เป็นร้อยละ 56.91
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ ได้ทำสัญญาให้คำปรึกษาและจัดทำการศึกษาเชิงลึก (Consultancy and Comprehensive Study) สำหรับโรงพยาบาลเอกชนของมหาวิทยาลัยคิงซาอุด กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท อินเตอร์เฮลท์ ซาอุดีอาระเบีย จำกัด (บริษัทย่อยของ อินเตอร์เฮลท์ แคนาดา จำกัด) กับบริษัทฯ เพื่อให้บริการที่ปรึกษาและดำเนินงานด้านการบริหารโรงพยาบาลทั่วไป โดยเป็นความร่วมมือเบื้องต้น มูลค่าโครงการประมาณ 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 99.99 ของบริษัท บำรุงเมือง พลาซ่า จำกัด (BMP) จากบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อรับสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารในสิทธิการเช่าของสภากาชาดไทย การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงการโรงพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) ซึ่งมีแนวคิดจัดตั้งเป็นศูนย์การแพทย์ ประกอบด้วยแผนกผู้ป่วยนอก เช่น แผนกกายภาพบำบัด แผนกดูแลสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึงมีห้องพักสำหรับผู้ป่วยฟื้นฟู
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโรงพยาบาลเวลลี่ (Welly Hospital) อย่างเป็นทางการ ณ เมืองเว่ยไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 58 และนับเป็นโรงพยาบาลไทยแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการด้านการแพทย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 บริษัทฯ ได้อนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัท อรยู อินเตอร์เนชันแนล เฮลท์แคร์ จำกัด จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 40 โดยการซื้อหุ้นจากบริษัท ดับบลิวเจ อินเตอร์เนชันแนล ฮอสปิทอล แมเนจเมนท์ จำกัด ในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ โดยคาดว่าจะชำระค่าหุ้นในไตรมาส 1/2561 และคาดว่าโรงพยาบาลอรยู อินเตอร์เนชันแนล จะเปิดให้บริการได้ภายในกลางปี 2561
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 กิจการร่วมค้าได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจาก “บริษัท เว่ยไห่ ธนบุรี เฮลท์แคร์ อินเวสต์เมนท์ จำกัด” เป็น “บริษัท เว่ยไห่ เวลลี่ ฮอสปิทอล จำกัด” และที่ประชุมคณะกรรมการกิจการร่วมค้าได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 20 ล้านหยวน รวมเป็น 250 ล้านหยวน โดยบริษัทฯ ชำระค่าหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 11.60 ล้านหยวน (เทียบเท่า 58.02 ล้านบาท)
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 โรงพยาบาลธนบุรี ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งการก่อตั้ง ในฐานะหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนนำของประเทศซึ่งมีเครือข่ายโรงพยาบาล 19 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่สูง 4 ชั้น
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 บริษัทฯ ได้เริ่มซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 85 ล้านหุ้น ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “THG” ระดมทุนได้ทั้งสิ้น 3,230 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้ธนาคารและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 โครงการใหม่ได้เปิดตัวในฐานะส่วนหนึ่งของเครือโรงพยาบาลธนบุรี (THG) โดยเป็นโรงพยาบาลเรือธงแห่งใหม่ ขนาด 148 เตียง ที่ทันสมัยและล้ำสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในสาขาต่าง ๆ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) การดูแลผู้ป่วยเบาหวานและแผล การดูแลด้านความงามและชะลอวัย การตรวจสุขภาพ หู คอ จมูก (ENT) และกระดูกและข้อ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพทางการแพทย์ล่าสุดและการฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ