ปวดเรื้อรังหายได้ถ้ารู้ทัน

ปวดเรื้อรังหายได้ถ้ารู้ทัน
1 ใน 5 ของคนไทยมีปัญหาการปวดเรื้อรัง
การปวดแบ่งเป็น 2 ชนิด
- ปวดฉับพลัน (acute pain)
- ปวดเรื้อรัง คือ อาการปวดที่เข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 ของอาการดังต่อไปนี้
- อาการปวดที่เป็นมานานมากกว่า 3 เดือน
- อาการปวดที่ไม่ทุเลาหรือไม่ดีขึ้น หลังได้รับการรักษา
- อาการปวดที่เป็นนานกว่าระยะเวลาที่คาดว่าจะหาย
ตำแหน่งของอาการปวดเรื้อรังที่พบบ่อยในประเทศไทย
- บ่า ไหล่
- หลังส่วนบน
- ศีรษะ
สาเหตุของการปวดเรื้อรัง
- ปวดจากกระดูกและกล้ามเนื้อ ได้แก่
- Office syndrome ซึ่งเกิดจากการใช้งานผิดท่าหรือการใช้งานที่มากเกินไป
- ความเสื่อมตามการใช้งาน เช่น กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม
- อุบัติเหตุ
- ปวดจากระบบประสาท
- ปวดจากโรคมะเร็ง
- ปวดจากอุบัติเหตุ
- ปวดหลังการผ่าตัด
📔 ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะโรคที่มีสาเหตุมาจากกระดูกและกล้ามเนื้อเท่านั้น
- Text Neck Syndrome คือ ภาวะปวดต้นคอเรื้อรังที่เกิดจากการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลานาน แก้ไขโดยให้เล่นโทรศัพท์ในระดับสายตา
- Upper Crossed Syndrome คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อส่วนบนไม่สมดุลกัน ส่งผลให้ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากภาวะ Text Neck Syndrome ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกตึง แต่กล้ามเนื้อที่หลังอ่อนแรง ส่งผลให้หลังงอ
- Myofascial pain syndrome เกิดจากการที่กล้ามเนื้อตึงเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดการขาดเลือด และเกิดพังผืดตรงบริเวณกล้ามเนื้อนั้นๆ ซึ่งพังผืดนั้น ทำให้เกิดการสร้างสารความเจ็บปวดขึ้นมาและส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวได้
- พังผืดเกิดขึ้นที่บริเวณกล้ามเนื้อบ่า ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะได้
- พังผืดเกิดที่สะบัก ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวลงแขนได้
- พังผืดที่สลักเพชร (กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกซึ่งวางพาดบนเส้นประสาท) ส่งผลให้อาการปวดร้าวลงขาได้
- Cervical spondylosis คือ ภาวะกระดูกคอเสื่อม จะมีอาการปวดต้นคอร้าวลงแขน ต้องอาศัยการเอกซเรย์เพื่อช่วยในการวินิจฉัย
- Spinal stenosis คือ ภาวะกระดูกสันหลังตีบแคบ มีอาการปวดหลังร้าวลงขา มีสาเหตุมีจากนั่งหลังงอ การยกของหนักซ้ำๆ
- Herniated disc คือ ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม แล้วปลิ้น ทำให้เกิดอาการปวดหลังร้าวลงขา สาเหตุเกิดจากการยกของผิดท่า
Key ในการลดปวด
- หาสาเหตุ
- มีความรู้เกี่ยวกับตัวโรค
- ทำให้กล้ามเนื้อความแข็งแรง
การรักษา
- การมีองค์ความรู้ในโรคที่เป็น
- การออกกำลังกาย
- การใช้ยา
- เครื่องมือทางกายภาพบำบัด
- อุปกรณ์เสริม
หากมีอาการปวดเรื้อรัง อาจต้องใช้ระยะเวลารักษาอย่างน้อย 6-12 เดือน
การรักษาภาวะ Office syndrome
- เปลี่ยนอิริยาบถทุก 30 นาที เป็นสิ่งสำคัญ
- ปรับท่านั่งที่เหมาะสม คือ หลังตรงพิงเก้าอี้ ไหล่ไม่ยก ศอกตั้งฉาก ข้อมือเหยียดตรง เท้าวางราบกับพื้น ระยะห่างสายตากับจอ 1 ฟุต
การป้องกันการเกิด Herniated disc ต้องยกของในท่าที่ถูกต้อง หากจำเป็นต้องยกของหนัก ต้องย่อตัวลงไปก่อนแล้วยก
การยืดกล้ามเนื้อ : ทำข้างละ 10 วินาที ข้างละ 3 ครั้ง ทุก 1 ชั่วโมง
- หากปวดคอขวา ให้ยกแขนข้างซ้าย แล้วดึงคอไปด้านซ้าย
- หากปวดสะโพกร้าวลงขา ให้งอเข่าและพาดขาเป็นเลข 4 ให้เอามือกดเข่าและเท้าเอาไว้และโน้มตัวไปด้านหน้า
- หากปวดหลังส่วนล่าง ให้นั่งงอตัว ก้มตัวเอามือไปจับข้อเท้า
- หากปวดหลังด้านข้าง ให้นั่งแล้วค่อยๆบิดตัวไปด้านข้าง
นอกจากนี้การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอาการปวดให้ตรงจุด
เพราะสามารถตรวจรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค และเลือกวิธีการรักษาที่หลากหลายได้ตรงจุด เช่น
-เครื่อง Ultrasound บรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ
-เครื่อง Shockwave ลดพังผืดและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณกล้ามเนื้อ
-การฝังเข็มแบบ Dry needling สลายพังผืดในกล้ามเนื้อ
-การทำโปรแกรมกายภาพบำบัดอื่นๆ
ผู้เรียบเรียงโดย : พญ. ชลิดา ผู้บังเกิดผล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์พื้นฟู
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนกกายภาพบำบัด และเวชศาสตร์ฟื้นฟู โทร. 02-220-7999 ต่อ 83070